อารมณ์ขันนั้นดีอย่างไร… |
นักวิชาการหลายท่านได้ทำการศึกษาและค้นพบประโยชน์ของอารมณ์ขันมากมาย เช่น… |
อารมณ์ขันรักษาสัมพันธภาพให้สนิท |
ช่วยละลายอารมณ์โกรธ ความหงุดหงิด และระงับการโต้แย้งได้ รวมทั้งกระชับสัมพันธภาพ และเพิ่มพูนความผูกพันเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตร่วมกันได้มีผู้สำรวจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคู่แต่งงาน 30 คู่ เขาพบว่าการหัวเราะจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของคนไปจากอารมณ์โกรธ และความรู้สึกที่เป็นปฎิปักษ์ และจากการศึกษาทางด้านสรีระพบว่า เมื่อคนสองคนหัวเราะร่วมกันหัวใจของเขาจะเต้นเร็ว และเต้นไปในจังหวะเดียวกันทำให้เกิดความรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้ร่างกายและอารมณ์ต่อต้านลดลง |
อารมณ์ขันเป็นรางวัลอันมีค่า |
ได้มีการสำรวจจากผู้จัดการฝ่ายบริหารบุคคล 84คน ผู้อำนวยการ 1,000 คน จากบริษัทใหญ่ๆในอเมริกาพบว่า “คนที่มีอารมณ์ขันจะทำงานได้ดีกว่าคนที่ขาดอารมณ์ขัน “เนื่องจาก มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่คับแคบ มีความยืดยุ่น สามารถตัดสินใจ และยอมรับความคิดใหม่ๆ ได้ดีกว่า ดังนั้นคนที่มีอารมณ์ขัน จะมีเสน่ห์จูงใจให้ถูกเลือกเป็นผู้รับผิดชอบงานในตำแหน่งสูงๆ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนักจิตวิทยา ชื่อ บาร์บารา (Barbara Mackoff) ก็เคยกล่าวไว้ว่า อารมณ์ขันช่วยสร้างอำนาจในการบังคับบัญชา เพราะจะช่วยลดความรู้สึกต่อด้านขัดแย้ง เป็นเทคนิคที่ช่วยให้สามารถแก้ไขความผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว เป็นลักษณะที่ทำให้ผู้ใกล้ชิดเกิดความเชื่อถือ มั่นใจ และรู้จักผ่อนคลาย |
อารมณ์ขันช่วยผลักดันความยุ่งยากให้หมดไป |
อารมณ์ขันสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่จู่โจมเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เพราะทำให้ข้อมูลหรือคำพูดที่กล่าวออกไปมีความรุนแรงน้อยลง นักจิตวิทยากล่าวว่า ถ้าคนเราพูดตรงๆกับใครคนหนึ่งหรือพูดให้เขารู้สึกอับอาย เขาจะเกิดความรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันที แต่คำพูดที่แฝงอารมณ์ขันจะเป็นการเปิดโอกาสให้เขามองเห็นพฤติกรรมที่ผ่านมา ได้เห็นจุดบกพร่องด้วยตนเองโดยที่เราไม่ต้องบอก ซึ่งทำให้เขาเต็มใจที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนพฤติกรรม |
อารมณ์ขันช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง |
เราทราบกันนานแล้วว่า เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะผลิตฮอร์โมนออกมาเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม ที่จะเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤตหัวใจจะเต้นแรงขึ้น ปอดขยายเพื่อรับออกซิเจนได้มากขึ้นร่างกายกระตุ้นพลังงานไปที่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายอ่อนแอและนำไปสู่โลกต่างๆได้ง่าย แต่การหัวเราะจะช่วยให้เกิดผลไปในทางตรงกันข้ามช่วยเสริมให้คนมี พลังในการต่อต้านโรคได้ |
ในการวิจัยกับผู้ป่วยชาย 10 คน โดยให้ดูหนังตลก 5 คน ที่เหลือให้นั่งอยู่ในห้องเงียบๆ แล้วเจาะเลือดดูทุกๆ 10นาที เพื่อวิเคราะห์การหลั่งของฮอร์โมน พบว่ากลุ่มที่นั่งอยู่ในห้องเงียบๆ มีการหลั่งฮอร์โมนลดลง นอกจากนั้นการหัวเราะยังเป็นการป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย |
จากการศึกษาของจิตแพทย์วิลเลี่ยมบี เรดฟอร์ด โดยทำกับกลุ่มแพทย์เพศชาย วัย 25 ปี พบว่า พวกที่มีบุคลิกภาพที่เป็นมิตรหรือต่อต้านสูงมีถึง 4 ใน 5 ที่เป็นโรคหัวใจหรือมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นโลหิตแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ ทำให้เขาสรุปได้ว่า อารมณ์โกรธและความรู้สึกต่อต้านไม่เป็นมิตรหรือมองโลกในแง่ร้ายจะทำลายสุขภาพ แต่การหัวเราะจะช่วยให้รู้สึกต่อต้านไม่เป็นมิตร หรือมองโลกในแง่ร้ายจะทำลายสุขภาพ แต่การหัวเราะจะช่วยให้ความรู้สึกดังกล่าวหมดไป |
เมื่อได้ทราบถึงประโยชน์อันมหาศาลของอารมณ์ขันแล้ว อาจทำให้หลายคนมีความพยายามที่จะฝึกฝนตนเองให้มีอารมณ์ขันขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้น “เพื่อความสุขสันต์ จงสร้างอารมณ์ขันให้ชีวิต“ |
อ้างอิง : อมรากุล อินโอชานนท์ แปลและเรียบเรียงจาก Patti jones, “She Who laughs lasts! (and more reasons to always looks on the light side)” Red Book January 1991 p.71-73 |