คิดอย่างไร ไม่ให้เครียด

คิดอย่างไร…ไม่ให้เครียด

ความคิดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คนเราเกิดความเครียด หากรู้จักคิดให้เป็นก็จะช่วย
ให้ลดความเครียดไปได้มาก เราจึงขอนำเสนอวิธีการคิดที่เหมาะสมซึ่งจะไม่ทำให้เรา
เกิดความเครียด

ฆษณาผลงาน

เมื่อมีโอกาสก็พยายามโฆษณาผลงานของตนเองบ้าง เพราะคนหลายคนยังไม่รู้ว่าคุณ
ทำอะไร การโฆษณาผลงานของตนเอง ก็ต้องเชื่อมั่นว่าผลงานนั้นเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป เมื่อพูดออกไปคนทั่วไปจะต้องร้องอ๋อ และชื่นชมกับผลงานนั้น เมื่อทำผลงานให้
เกิดความสำเร็จบ่อยๆเข้า คนทั่วไปก็จะเกิดความเชื่อถือในตัวคุณไปโดยปริยาย

สร้างบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ

บุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ ทำให้คนอื่นไว้วางใจที่จะคบหา และติดต่องานด้วย ซึ่งไม่ควรมี
กิริยาวอกแวก และไม่ทำตัวตามสบายมากจนเกินไป การสร้างบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือนั้น
ให้ลองเลือกคนที่คุณเห็นในที่ทำงานไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง เจ้านาย หรือผู้ร่วมงาน
ที่คุณเห็นว่าเขามีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ และผู้คนส่วนใหญ่ไว้วางใจ จะเลือกคนใดคนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ได้ ให้สังเกต และจดบันทึกบุคลิกภาพในส่วนดีของเขาที่ทำให้คนอื่นเชื่อถือ แล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบุคลิกของตน

พูดและทำในสิ่งที่เป็นไปได้

ควรพูด และทำในสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะพูดหรือแนะนำอะไร สิ่งนั้นต้องสามารถเกิดขึ้น
ได้จริง และเป็นสิ่งที่คุณต้องทำสำเร็จ ถ้าคิดว่าทำ ไม่ได้ก็อย่าพูดให้คนอื่นเขาเกลียด
ขี้หน้าว่าทำไม่ได้แล้วพูดทำไม เสียเวลาเปล่าๆ เมื่อสิ่งใดที่หลุดออกจากปากของคุณ
และผ่านมือคุณออกไปเป็นสิ่งที่เกิดความสำเร็จทุกครั้งย่อมทำให้คนอื่นฟังคุณ และ
เชื่อถือคุณเกิดความมั่นในคำแนะนำ และการทำงานของคุณตลอดไป

ทำให้ผู้อื่นเชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อ

สิ่งใดที่คุณเชื่อแล้วสามารถทำให้คนอื่นได้เชื่อในสิ่งเดียวกันนั้น จะทำให้คุณทำอะไ
ก็ง่ายขึ้นไม่ว่าความเชื่อนั้นจะเป็นเรื่องใดก็ตาม การทำให้คนอื่นเชื่อสิ่งเดียวกับคุณ
ย่อมทำให้คุณได้รับความเชื่อมั่น และศรัทธาจนเกิดความน่าเชื่อถือในที่สุด 
 

บทความทางจิตวิทยา-อารมณ์ขันนั้นดีอย่างไร

 อารมณ์ขันนั้นดีอย่างไร…
                นักวิชาการหลายท่านได้ทำการศึกษาและค้นพบประโยชน์ของอารมณ์ขันมากมาย  เช่น…
อารมณ์ขันรักษาสัมพันธภาพให้สนิท
         ช่วยละลายอารมณ์โกรธ ความหงุดหงิด และระงับการโต้แย้งได้ รวมทั้งกระชับสัมพันธภาพ และเพิ่มพูนความผูกพันเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตร่วมกันได้มีผู้สำรวจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคู่แต่งงาน 30 คู่ เขาพบว่าการหัวเราะจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของคนไปจากอารมณ์โกรธ และความรู้สึกที่เป็นปฎิปักษ์ และจากการศึกษาทางด้านสรีระพบว่า เมื่อคนสองคนหัวเราะร่วมกันหัวใจของเขาจะเต้นเร็ว และเต้นไปในจังหวะเดียวกันทำให้เกิดความรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้ร่างกายและอารมณ์ต่อต้านลดลง
อารมณ์ขันเป็นรางวัลอันมีค่า
         ได้มีการสำรวจจากผู้จัดการฝ่ายบริหารบุคคล 84คน ผู้อำนวยการ 1,000 คน จากบริษัทใหญ่ๆในอเมริกาพบว่า “คนที่มีอารมณ์ขันจะทำงานได้ดีกว่าคนที่ขาดอารมณ์ขัน “เนื่องจาก มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่คับแคบ มีความยืดยุ่น สามารถตัดสินใจ และยอมรับความคิดใหม่ๆ ได้ดีกว่า ดังนั้นคนที่มีอารมณ์ขัน จะมีเสน่ห์จูงใจให้ถูกเลือกเป็นผู้รับผิดชอบงานในตำแหน่งสูงๆ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนักจิตวิทยา ชื่อ บาร์บารา (Barbara Mackoff) ก็เคยกล่าวไว้ว่า อารมณ์ขันช่วยสร้างอำนาจในการบังคับบัญชา เพราะจะช่วยลดความรู้สึกต่อด้านขัดแย้ง เป็นเทคนิคที่ช่วยให้สามารถแก้ไขความผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว เป็นลักษณะที่ทำให้ผู้ใกล้ชิดเกิดความเชื่อถือ มั่นใจ และรู้จักผ่อนคลาย 
อารมณ์ขันช่วยผลักดันความยุ่งยากให้หมดไป
         อารมณ์ขันสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ที่จู่โจมเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เพราะทำให้ข้อมูลหรือคำพูดที่กล่าวออกไปมีความรุนแรงน้อยลง นักจิตวิทยากล่าวว่า ถ้าคนเราพูดตรงๆกับใครคนหนึ่งหรือพูดให้เขารู้สึกอับอาย เขาจะเกิดความรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันที แต่คำพูดที่แฝงอารมณ์ขันจะเป็นการเปิดโอกาสให้เขามองเห็นพฤติกรรมที่ผ่านมา ได้เห็นจุดบกพร่องด้วยตนเองโดยที่เราไม่ต้องบอก ซึ่งทำให้เขาเต็มใจที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนพฤติกรรม
อารมณ์ขันช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง
         เราทราบกันนานแล้วว่า เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะผลิตฮอร์โมนออกมาเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม ที่จะเผชิญหน้ากับภาวะวิกฤตหัวใจจะเต้นแรงขึ้น ปอดขยายเพื่อรับออกซิเจนได้มากขึ้นร่างกายกระตุ้นพลังงานไปที่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ร่างกายอ่อนแอและนำไปสู่โลกต่างๆได้ง่าย  แต่การหัวเราะจะช่วยให้เกิดผลไปในทางตรงกันข้ามช่วยเสริมให้คนมี พลังในการต่อต้านโรคได้ 
              ในการวิจัยกับผู้ป่วยชาย 10 คน โดยให้ดูหนังตลก 5 คน ที่เหลือให้นั่งอยู่ในห้องเงียบๆ แล้วเจาะเลือดดูทุกๆ 10นาที เพื่อวิเคราะห์การหลั่งของฮอร์โมน พบว่ากลุ่มที่นั่งอยู่ในห้องเงียบๆ มีการหลั่งฮอร์โมนลดลง นอกจากนั้นการหัวเราะยังเป็นการป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย
           จากการศึกษาของจิตแพทย์วิลเลี่ยมบี เรดฟอร์ด โดยทำกับกลุ่มแพทย์เพศชาย วัย 25 ปี พบว่า พวกที่มีบุคลิกภาพที่เป็นมิตรหรือต่อต้านสูงมีถึง 4 ใน 5 ที่เป็นโรคหัวใจหรือมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นโลหิตแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ ทำให้เขาสรุปได้ว่า อารมณ์โกรธและความรู้สึกต่อต้านไม่เป็นมิตรหรือมองโลกในแง่ร้ายจะทำลายสุขภาพ แต่การหัวเราะจะช่วยให้รู้สึกต่อต้านไม่เป็นมิตร หรือมองโลกในแง่ร้ายจะทำลายสุขภาพ แต่การหัวเราะจะช่วยให้ความรู้สึกดังกล่าวหมดไป
 
เมื่อได้ทราบถึงประโยชน์อันมหาศาลของอารมณ์ขันแล้ว อาจทำให้หลายคนมีความพยายามที่จะฝึกฝนตนเองให้มีอารมณ์ขันขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย ดังนั้น 
เพื่อความสุขสันต์   จงสร้างอารมณ์ขันให้ชีวิต
 
อ้างอิง : อมรากุล อินโอชานนท์ แปลและเรียบเรียงจาก Patti jones, “She Who laughs lasts! (and more reasons to always looks on the light side)” Red Book January 1991 p.71-73