บทความทางจิตวิทยา-คิดอย่างไรไม่ให้เครียด

  คิดอย่างไร…ไม่ให้เครียด
              ความคิดของคนเรานี่แหละเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย ดังนั้นหากรู้จักคิดให้เป็นชีวิตก็จะมีความสุขขึ้นอีกเยอะเลย…วิธีคิดที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพจิตดีขึ้น ได้แก่….
  • คิดในแง่ยืดหยุ่นให้มากขึ้น 
         อย่าเอาความคิดส่วนตัวเที่ยวไปวัดหรือตัดสินความถูกผิดของผู้อื่น อย่าเอาแต่จับผิดผู้อื่นหรือตัวเองตลอดเวลา รู้จักปล่อยวาง ผ่อนหนักผ่อนเบา ให้อภัย ลดศักดิ์ศรี ทิฐิมานะ ลืมมันไปเสียบ้าง แล้วความเครียดจะน้อยลง หรือไม่มีความเครียดเลย
  • คิดอย่างมีเหตุผล
           อย่าเป็นคนหูเบา เชื่ออะไรง่ายๆ แล้วเก็บมาคิดวิตกกังวลเป็นทุกข์ เป็นร้อน พยายามใช้เหตุผล ไตร่ตรองให้รอบคอบต่อเรื่อง หรือปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • คิดหลายๆแง่มุม
           การมองหรือคิดอะไรด้านเดียวมักขาดทุน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย จึงต้องมองและคิดให้รอบด้าน จะได้เข้าใจเหตุการณ์ตามความเป็นจริงจิตใจจะได้ไม่ทุกข์
  • คิดแต่เรื่องดีๆ
       แม้ชีวิตจะมีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันอยู่เสมอ แต่เราไม่จำเป็นจะต้องจดจำแต่เรื่องร้ายๆ หรือเรื่องทุกข์ ผิดหวัง สิ่งดีๆในชีวิตต่างหากที่ควรจดจำและระลึกถึงบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในชีวิตที่ผ่านมา คำชมเชยที่ได้รับความมีน้ำใจของเพื่อน ฯลฯ เพื่อจะได้มีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคต่อไป
  • คิดถึงคนอื่นบ้าง
       อย่าคิดหมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากนัก เปิดใจรับรู้ความเป็นไปของคนใกล้ชิด หรือปัญหาของผู้คนในสังคมบ้าง บางทีคุณอาจจะพบว่าปัญหาที่ตัวเอง เจอะเจอนี้ช่างเล็กน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับปัญหาของคนอื่นๆ แล้วหากคุณสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้บ้าง จิตใจก็จะเกิดปีติสุข
ที่มา : มูลนิธิหมอชาวบ้าน

บทความทางจิตวิทยา-กลยุทธ์สร้างความน่าเชื่อถือ

 กลยุทธ์สร้างความน่าเชื่อถือ
 
                ความคิดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คนเราเกิดความเครียด หากรู้จักคิดให้เป็นก็จะช่วยให้ลดความเครียดไปได้มาก เราจึงขอนำเสนอวิธีการคิดที่เหมาะสมซึ่งจะไม่ทำให้เราเกิดความเครียด…
 
  • เปิดเผยแต่ส่วนดี
                 ให้เปิดเผย และแสดงส่วนดีของตนเองให้คนอื่นได้เห็น เช่น ถ้าเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนก็ขอให้เลือกสถานที่ที่คนในที่ทำงานเขาไม่เที่ยว อย่าเที่ยวกลางคืน อย่ากินเหล้า ให้คนอื่นเห็นเดี่ยวคนเขาจะไปนินทา หรืออาจจะแซวในที่ทำงาน ทำให้คนอื่นมองในภาพที่ไม่ดี และเกิดความไม่น่าเชื่อถือเนื่องจากเที่ยวดึกบ่อยๆทำให้การทำงานหย่อนประสิทธิภาพได้
 
  • โฆษณาผลงาน
                  เมื่อมีโอกาสก็พยายามโฆษณาผลงานของตนเองบ้าง เพราะคนหลายคนยังไม่รู้ว่าคุณทำอะไร การโฆษณาผลงานของตนเอง ก็ต้องเชื่อมั่นว่าผลงานนั้นเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป เมื่อพูดออกไปคนทั่วไปจะต้องร้องอ๋อ และชื่นชมกับผลงานนั้น เมื่อทำผลงานให้เกิดความสำเร็จบ่อยๆเข้า คนทั่วไปก็จะเกิดความเชื่อถือในตัวคุณไปโดยปริยาย
 
  • สร้างบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ
             บุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ ทำให้คนอื่นไว้วางใจที่จะคบหา และติดต่องานด้วย ซึ่งไม่ควรมีกิริยาวอกแวก และไม่ทำตัวตามสบายมากจนเกินไป การสร้างบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือนั้น ให้ลองเลือกคนที่คุณเห็นในที่ทำงานไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง เจ้านาย หรือผู้ร่วมงานที่คุณเห็นว่าเขามีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ และผู้คนส่วนใหญ่ไว้วางใจ จะเลือกคนใดคนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ได้ ให้สังเกต และจดบันทึกบุคลิกภาพในส่วนดีของเขาที่ทำให้คนอื่นเชื่อถือ แล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบุคลิกของตน
 
  • พูดและทำในสิ่งที่เป็นไปได้
                  ควรพูด และทำในสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะพูดหรือแนะนำอะไร สิ่งนั้นต้องสามารถเกิดขึ้นได้จริง และเป็นสิ่งที่คุณต้องทำสำเร็จ ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็อย่าพูดให้คนอื่นเขาเกลียดขี้หน้าว่าทำไม่ได้แล้วพูดทำไม เสียเวลาเปล่าๆ เมื่อสิ่งใดที่หลุดออกจากปากของคุณและผ่านมือคุณออกไปเป็นสิ่งที่เกิดความสำเร็จทุกครั้งย่อมทำให้คนอื่นฟังคุณและเชื่อถือคุณเกิดความมั่นในคำแนะนำ และการทำงานของคุณตลอดไป
 
  • ทำให้ผู้อื่นเชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อ
                 สิ่งใดที่คุณเชื่อ แล้วสามารถทำให้คนอื่นได้เชื่อในสิ่งเดียวกันนั้น จะทำให้คุณทำอะไรก็ง่ายขึ้น ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะเป็นเรื่องใดก็ตาม การทำให้คนอื่นเชื่อสิ่งเดียวกับคุณย่อมทำให้คุณได้รับความเชื่อมั่นและศรัทธา จนเกิดความ น่าเชื่อถือในที่สุด